6 วิธีกำจัดคราบสกปรกในห้องน้ำ ทำง่ายและใช้ได้จริง

Pattareeya Pattareeya
Квартира. Минимализм с элементами лофта, 3D GROUP 3D GROUP Minimalistische Badezimmer
Loading admin actions …

ห้องน้ำของบ้าน มักจะเป็นส่วนที่พื้นเกิดคราบสกปรกจากน้ำ ความชื้น อยู่บ่อยครั้ง หากไม่ดูแลทำความสะอาดให้ดี ก็จะเกิดคราบเหลืองและเกิดเชื้อราฝังแน่น ไม่น่ามอง โดยเฉพาะบริเวณที่ใช้อาบน้ำ ทั้งพื้น อ่างอาบน้ำ และฝักบัว อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่กลุ้มใจเรื่องนี้อยู่ เรามีวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้มาฝากกันในไอเดียบุคนี้

1. เริ่มต้นด้วยเหตุผลที่เราต้องกำจัดคราบและเชื้อรา

Bajo comercial convertido en loft (Terrassa), Egue y Seta Egue y Seta Rustikale Badezimmer

ปกติจะมีคราบทีมักเกิดกับห้องอาบน้ำอยู่ 2 แบบ แต่ไม่ว่าแบบไหนก็ไม่น่าดูทั้งนั้น อย่างแรกเป็นคราบเหลืองที่เกิดจากแคลเซียม เกาะติดผนัง ท่อ รวมถึงกระเบื้อง ยิ่งเกาะเยอะมากแค่ไหน คราบเหลืองหนาๆ นั่นก็ยิ่งทำให้ห้องน้ำดูหมองลง อย่างที่สองคือคราบเชื้อรา ซึ่งในกรณีนี้ก็คือการสะสมของแบคทีเรีย อันจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพของคนในบ้าน

การทำความสะอาดอาจดูเป็นเรื่องความพอใจ อยากทำเมื่อไหร่ก็ทำ แต่ก็ต้องทำ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นก๊อกน้ำ บานพับฉากกั้นห้องอาบน้ำ หากมีคราบสกปรกสะสม ก็จะทำให้สิ่งเหล่านี้ทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือในกรณีที่เป็นเชื้อรา หากไม่ทำความสะอาดก็จะมีผลต่อสุขภาพของเรา แนะนำว่าให้ทำความสะอาดบ่อยๆ จึงจะดีกว่า หากทิ้งไว้แล้วคราบราก่อตัวหนา (ราเติบโตได้เพราะเป็นสิ่งมีชีวิต) ก็จะยิ่งทำความสะอาดได้ยากและเกิดผลเสียแน่นอน

2. ทำความสะอาดด้วยแอมโมเนียหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

Tendencias cerámicas, Azulev Azulev Minimalistische Badezimmer

ทั้งแอมโมเนียและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ล้วนเป็นสารทำความสะอาดที่กำจัดคราบราได้ผล โดยเฉพาะราบริเวณรอยต่อฝักบัวและรอยยาแนวกระเบื้อง อย่างไรก็ตามสารทั้งสองชนิดก็มีข้อแตกต่างกันคือ แอมโมเนียมีฤทธิ์เป็นพิษ ในขณะที่ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือที่เรารู้จักในฐานะยาล้างแผลไม่มี หากต้องการซื้อแอมโมเนียจึงต้องไปซื้อที่ร้านขายยา ขณะที่ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มีจำหน่ายแม้ในร้านสะดวกซื้อ นอกจากนี้ก็ยังมีข้อแตกต่างอื่นๆ เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ใช้กำจัดเชื้อราได้ในทุกพื้นผิว ในขณะที่แอมโมเนียเหมาะสำหรับการใช้กับกระเบื้องและกระจกเท่านั้น

สำหรับการใช้สารทั้งสองนั้นมีวิธีที่คล้ายกัน คือสามารถใช้สเปรย์ไปในบริเวณที่ต้องการทำความสะอาดได้เลย แต่แอมโมเนียต้องผสมน้ำในบริมาณที่เท่ากันก่อน จากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดบริเวณนั้นเป็นอันเสร็จสิ้น

3. ทำความสะอาดด้วยน้ำส้มสายชูและเกลือ

homify Moderne Badezimmer

น้ำส้มสายชูได้ชื่อว่าเป็นตัวกำจัดสารจำพวกแคลก์หรือสารที่เกิดจากแคลเซียมที่ดีที่สุดตัวหนึ่ง อย่างที่เรามักจะเห็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดยี่ห้อต่างๆ ในท้องตลาดมีส่วนผสมของน้ำส้มอยู่ 

คราบเหลืองที่มีมากในห้องน้ำ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ตามฝักบัว ก๊อก และกระจก/ฉากกั้นที่อาบน้ำ ซึ่งบริเวณต่างๆ ที่กล่าวมานั้นสามารถทำความสะอาดด้วยน้ำส้มได้ โดยผสมน้ำส้มสายชูกับเกลือ และน้ำ จากนั้นใช้ผ้าชุบ ขัดถูบริเวณที่ต้องการ สำหรับส่วนที่เป็นบานกั้นห้องอาบน้ำ ควรทำความสะอาดทั้งด้านนอกและด้านใน จากนั้นก็ให้ใช้ผ้าสะอาดที่นุ่มและแห้งเช็ดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ส่วนถ้าใครที่ต้องการให้ส่วนอื่นๆ ในห้องน้ำสะอาดแวววาวด้วย ก็สามารถใช้น้ำยาที่ผสมไว้นี้เช็ดทำความสะอาดได้ รวมถึงกระจกห้องน้ำด้วย

4. ทำความสะอาดขั้นสุดด้วยกรดไฮโดรคลอริก

คงเคยได้ยินชื่อกรดเกลือหรือกรดไฮโดรคลอริกกันบ้างใช่ไหม สมัยก่อนกรดไฮโดรคลอริกที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ในบ้านมักเป็นที่รู้จักกันในชื่อกรดมูเรียติก (muriatic acid) อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะชื่ออะไร กรดชนิดนี้ก็เป็นสารที่มีความเป็นพิษสูง และมีฤทธิ์กัดกร่อนสูงมาก จนมีคนคิดนำมาใช้ทำความสะอาดคราบและเชื้อราในห้องน้ำที่ฝังแน่น

สำหรับการใช้งานกรดไฮโดรคลอริกกับห้องน้ำ สิ่งที่ต้องจำไว้คือ ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

กรดนี้มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง แม้ควันและไอก็อาจระคายเคืองต่อดวงตา เยื่อบุอ่อน และทางเดินหายใจส่วนบนได้ เพราะฉะนั้นห้ามสัมผัสโดยตรง ต้องสวมถุงมือยางหนาๆ ป้องกันไว้ตลอด แม้จะผสมกรดไฮโดรคลอลิก 1 ส่วน กับน้ำ 3 ส่วนแล้วก็ยังต้องสวมถุงมือเอาไว้ตลอดการใช้งาน ข้อควรระวังอีกข้อคือ พยายามอย่าให้กรดกระเด็นมาโดนตัว เวลาให้งานให้ใช้แปรงจุ่มสารที่ผสมไว้แล้วทาบริเวณที่ต้องการ จากนั้นทิ้งเอาไว้สักครึ่งชั่วโมง จากนั้นให้ใช้น้ำจำนวนมากล้างออก ปล่อยให้โดนอากาศสักพัก แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งเป็นขั้นตอนสุดท้าย

5. วิธีทำความสะอาดแบบอื่นๆ

นอกจากวิธีที่กล่าวถึงข้างต้น ยังมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดคราบเหลืองและเชื้อราอีกมาก เช่น การทำความสะอาดบริเวณกระจกและกระเบื้องด้วยผงซักฟอก พร้อมขัดราและคราบเหลืองออก แต่ทั้งนี้ การใช้ผงซักฟอกไม่ได้ทำให้เชื้อราตายไปด้วย เช่นที่เราบอกไปว่ารามีผลต่อสุขภาพของคนที่ใช้งานห้องน้ำ หากรายังอยู่ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราด้วย 

บางบ้านอาจใช้วิธีธรรมชาติทำความสะอาดห้องน้ำ เช่นใช้ทีทรีออยล์ แต่แม้ออยล์จะทำให้ห้องน้ำสะอาด แต่ในทางกลับกัน ก็จะทำให้ราขยายตัวได้ดีเช่นกัน คราวนี้ล่ะที่จะปวดหัวกันอย่างแท้จริง อาจถึงขั้นต้องเรียกผู้เชี่ยวชาญมาทำความสะอาด ถอนรากถอนโคนแบคทีเรียพวกนี้จนต้องเสียเงินเพิ่มอีกมากมาย

6. ดูแลไม่ให้เกิดคราบ ง่ายกว่ามาล้างทีหลัง

ราดำเป็นผลมาจากความชื้น ในห้องน้ำที่เต็มไปด้วยความชื้นและคราบน้ำหลังอาบน้ำ หรือไอน้ำจากการอบซาวน่า จึงหนีเชื้อราไม่พ้น เช่นเดียวกับรอยยาแนวกระเบื้อง พื้นที่ในห้องน้ำส่วนต่างๆ มีแนวโน้มที่จะเกิดเชื้อราได้ทั้งสิ้น 

ไม่ช้าก็เร็ว เราก็ต้องทำความสะอาดห้องน้ำเพื่อกำจัดคราบเหล่านี้ แต่ทางที่ดี หากเรามีมาตรการป้องกันไม่ให้ราเหล่านี้เกิดแต่แรกก็น่าจะดีกว่า คำแนะนำคือควรใส่ใจดูทุกครั้งหลังอาบน้ำ เช่น ไม่หมักหมมม่านกั้นห้องน้ำ ใช้เกลือบอแรกซ์ทำความสะอาดแต่เนิ่นๆ เพื่อให้เชื้อราเติบโตได้ หรืออาจใช้สารสกัดจากเมล็ดเกรปฟรุต และสุดท้าย ก็คือหมั่นตรวจตราห้องน้ำอยู่เสมอ หากมีบริเวณไหนที่เริ่มเกิดคราบหรือเชื้อราก็ควรหาวิธีเลี่ยงไม่ให้ความชื้นสะสมในจุดนั้น  หรือบางจุดอาจมีกลิ่นเหม็นเป็นตัวบ่งบอก ก็ควรรีบลงมือแก้ไขในทันทีเช่นกัน

การแยกพื้นที่เปียกแห้งในห้องน้ำเป็นอีกมวิธีลดการเกิดราในห้องน้ำ ดูเพิ่มเติมได้ที่ บอกลาเชื้อรา! ด้วยห้องน้ำที่แยกส่วนเปียกแห้ง มีให้คุณดูตั้ง 9 แบบ

Benötigen Sie Hilfe mit einem Projekt?
Beschreiben Sie Ihr Projekt und wir finden den richtigen Experten für Sie!

Highlights aus unserem Magazin